บทที่ 12 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ (DECISION SUPPORT AND IMPLEMENTS)โดย วรพล อิทธิคเณศร (Mr. Vorapol Itthikhanesorn) , DOCTOR OF BUSINESS ADMINISTRATION (DBA)
บทที่ 12 ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ
(DECISION SUPPORT AND IMPLEMENTS)
ผู้นำเสนอ : นางธนิดา ภูสุวรรณ์
ผู้แปลและสรุป : วรพล อิทธิคเณศร
ปริญญาเอกหลักสูตรบริ หารดุษฎีบัณฑิต (D.B.A.)มหาวิ ทยาลัยศรีปทุม
รายวิชา BUS 702 ทฤษฎีการจัดการการตลาดเชิ งกลยุทธ์ชั้นสูงและแนวคิดเชิ งปฎิบัติ

ประวัติความเป็นมาและความหมาย
ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ
ประวัติที่สำคัญและความเป็นมา ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ (Decision Support System) เป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ได้เริ่มขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1970 โดยมีหลายบริษัทเริ่มที่จะพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อที่จะช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน หรือกึ่งโครงสร้างโดยข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งระบบสารสนเทศเดิมนั้น ถูกใช้ในลักษณะระบบการประมวลผลรายการ (Transaction processing system) ไม่สามารถกระทำได้ นอกจากนั้นยังมีวัตถุประสงค์เพื่อลดแรงงาน ต้นทุนที่ต่ำลง และยังช่วยในเรื่องการวิเคราะห์การสร้างตัวแบบ (Model) เพื่ออธิบายปัญหาและตัดสินใจในการดำเนินการปัญหาต่างๆ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1980 ความพยายามในการใช้ระบบนี้ช่วยในการสนับสนุนการตัดสินใจได้แพร่ออกไป ยังกลุ่มและองค์กรธุรกิจต่างๆ
ความหมายระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ (Decision Support System) เป็นระบบย่อยระบบหนึ่งในระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ โดยที่ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ จะช่วยผู้บริหารในเรื่องการตัดสินใจในเหตุการณ์ หรือกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่มีโครงสร้างแน่นอน หรือกึ่งโครงสร้าง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจอาจจะใช้กับบุคคลเดียวหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเป็นกลุ่ม นอกจากนั้น ยังมีระบบสนับสนุนผู้บริหารเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์หรือเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินงาน ที่เป็นระบบที่เชื่อมโยงกันระหว่างทรัพยากรสมองของมนุษย์ให้ทำงานร่วมกับ ความสามารถของคอมพิวเตอร์เพื่อต้องการการปรับปรุงคุณภาพของการตัดสินใจให้ได้ดีที่สุด
กล่าวคือ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสามารถจัดการแก้ปัญหาต่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553) หรือเป็นการพัฒนาของระบบสนับสนุนการตัดสินใจโดยมีพื้นฐานแล้วเกิดจากความต้องการสร้างสรรค์สารสนเทศ ให้เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจมากขึ้นซึ่งกระบวนการสร้างสรรค์สาสนเทศดังกล่าว ประกอบด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์ข้อมูล และการคัดเลือกข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่จะทำการตัดสินใจ ซึ่งก่อนที่จะมีการพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจ มนุษย์ได้พยายามพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการทำงานด้านอื่นๆ มาก่อน (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)หรือเป็นระบบสารสนเทศที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้โดยที่ระบบนี้จะรวบรวมข้อมูลและแบบจำลองในการตัดสินใจที่สำคัญ เพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจแก้ปัญหาแบบกึ่งโครงสร้าง และแบบไม่มีโครงสร้างโดยผู้ที่ตัดสินใจจะต้องทำการตัดสินใจโดยใช้สติปัญญา เหตุผลประสบการณ์ และความคิดสร้างสรรค์ของตนเป็นหลัก โดยจะมีขั้นตอนตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นสุดท้ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี (พัชยา บัวบาน 2555)
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ( Decision Support System : DDS )
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นบาบาทสำคัญของผู้บริหารที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของ องค์การ การมีสารสนเทศที่ดี และเครื่องมือในการเข้าถึงข้อมูล รวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีนั้น จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถพิจารณาทางเลือกต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว คาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในบทนี้จะกล่าวถึงระบบสนับสนุนการตัดสินใจ โดยเริ่มจากการจัดการกับการตัดสินใจ ระดับการตัดสินใจภายในองค์การ ประเภทของการตัดสินใจ ส่วนประกอบคุณสมบัติของระบบ DSS เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างDSS กับระบบสารสนเทศอื่น ระบบสนับสนุนการตัดสินใจกลุ่ม (Group Decision Support System: GDSS) ส่วนประกอบและประโยชน์ของ GDSS รวมถึงการประยุกต์ใช้ระบบ DS(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
การจัดการกับการสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ เป็นการจัดการ (Management) ทางด้านการบริหารอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยกิจกรรมของกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือกันดำเนินงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ที่กำหนดไว้โดยใช้กระบวนการและทรัพยากร อย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด การจัดการเป็นศาสตร์และศิลปะซึ่งกระบวนการจัดการประกอบด้วย การวางแผน (Planning) การจัดองค์การ (Organizing) การสั่งการหรืออำนวยการ (Leading/Directing) และการควบคุม (Controlling) โดยการจัดการที่มีประสิทธิภาพนั้น ผู้บริหารจะต้องสามารถนำเอาความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ ด้านการบริหารมาประยุกต์ใช้ให้เหาะสมกับการทำงาน สถานการณ์ และสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ผู้บริหารจะต้องรู้จักเลือกและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้สารสนเทศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจ และเป็นประโยชน์ต่อการบริหารและการตัดสินใจ
ระดับการจัดการ
การจัดการภายในองค์การโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น3ระดับ การจัดการระดับสูง ( Upper level management ) การจัดการระดับกลาง (Middle-level Management) การจัดการระดับต้น (Lower-level Management) ซึ่งผู้บริหารแต่ละระดับมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต่างกัน
- การจัดการระดับสูง (Upper-level Management) ผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย เป้าหมาย วัตถุประสงค์ รวมถึงวางแผนกลยุทธ์และแผนระยะยาวขององค์การ จึงมีความต้องการสารสนเทศที่มีขอบเขตกว้างและสารสนเทศเกี่ยวกับแนวโน้มต่าง ๆ จากทั้งภายในองค์การและสิ่งแวดล้อมภายนอก
- การจัดการระดับกลาง (Middle-level Management) ผู้บริหารระดับกลางมีหน้าที่วางแผนยุทธวิธี (Tactical Planning) และประสานงานระหว่างผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารงานระดับต้นหรือหัวหน้างาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและสามารถปฏิบัติงานตามนโยบายหรือแผนงานที่กำหนดโดยผู้บริหารระดับสูง
- การจัดการระดับต้น (Lower-level Management) ผู้บริหารงานระดับต้นหรือหัวหน้างานมีหน้าที่ควบคุม ดูแลการปฏิบัติงานประจำวัน (Operational Control) ซึ่งขั้นตอนการทำงานมีรูปแบบที่แน่นอนและทำงานใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติงาน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดโดยผู้บริหารระดับกลาง การจัดการในระดับนี้ต้องอาศัยข้อมูลจากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดนำมาวิเคราะห์ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานและควบคุมให้สามารถดำเนินงานตามแผนระยะสั้นที่วางไว้
ประเภทของการตัดสินใจ
การจัดแบ่งจำแนกประเภทของกาตัดสินใจมีวัตถุประสงค์เพื่อจำแนกการตัดสินใจที่ลักษณะคล้ายกันให้อยู่ประเภทเดียวกันซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนา ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่องค์กรหรือหน่วยงานนั้นประสบอยู่เป็นประจำได้อย่างเหมาะสมประเภทของการตัดสินใจมี 3 ลักษณะคือ จำแนกตามจำนวนผู้ตัดสินใจ จำแนกตามโครงสร้างของปัญหา และจำแนกตามลักษณะการบริการงานในองค์กร
1.ประเภทของการตัดสินใจจำแนกตามจำนวนผู้ตัดสินใจ
(1).การตัดสินใจส่วนบุคคล (Personal Decision)คือการตัดสินใจที่มีผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นการตัดสินใจเพียงคนเดียว แก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนไม่มากนัก หรือเป็นปัญหาที่ไม่มีเหตุกระทบต่อบุคคลอื่น นอกเหนือจากผู้ตัดสินใจควรมีประสบการณ์และความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี เพื่อประสิทธิภาพในการตัดสินใจ(ณิชชา อินใจ 2553)
(2).การตัดสินใจแบบกลุ่ม (Group Decision)คือการตัดสินใจที่ต้องอาศัยผู้ตัดสินใจหลายคน โดยอาจจะอยู่ใน ลักษณะของ “การระดมสมอง (Brainstorming)” ซึ่งเป็นการตัดสินใจทีอาศัยความคิดเห็นของบุคคลต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาที่ทำการตัดสินใจ การตัดสินใจนี้ลักษณะนี้จะได้มุมมองที่หลากหลายและมักได้แนวทางที่ประสิทธิภาพในการตัดสินใจ(ณิชชา อินใจ 2553)
2.ประเภทตัดสินใจแบบโครงสร้างปัญหา
(1). การตัดสินใจแบบโครงสร้าง ( Structure Decision) บางครั้งเรียกว่าแบบกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว (programmed) เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ จึงมีมาตรฐานในการตัดสินใจเพื่อแก้ปัญหาอยู่แล้ว โดยวิธีการในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ เป็นการหาระดับสินค้าคงคลังที่เหมาะสม หรือการเลือกกลยุทธ์ในการลงทุนที่เหมาะสมที่สุด เมื่อมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด หรือเพื่อให้เกิดกำไรสูงสุด การตัดสินใจแบบนี้จึงมักใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ (Mathematical Model) หรือศาสตร์ทางด้านวิทยาการ การจัดการ (Management Science) หรือการวิจัยดำเนินงาน (Operation Research) เข้ามาใช้ โดยในบางครั้งอาจนำระบบสนับสนุนการตัดสินใจและระบบผู้เชี่ยวชาญเข้ามาใช้ร่วมด้วย ตัวอย่างของการตัดสินใจแบบโครงสร้าง (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553) เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่มีขั้นตอน กระบวนการในการแก้ปัญหาที่แน่ชัด สามารถกำหนดโครงสร้าง หรือกฎเกณฑ์ในการตัดสินใจ เช่น การตัดสินใจเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าคงคลัง
(2). การตัดสินใจแบบไม่เป็นโครงสร้าง (Unstructured Decision) บางครั้งเรียกว่าแบบไม่เคยกำหนดล่วงหน้ามาก่อน (Non Programmed Decision) เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาซึ่งมีรูปแบบไม่ชัดเจน หรือมีความซับซ้อน จึงไม่มีแนวทางในการแก้ปัญหาแน่นอน เป็นปัญหาที่ไม่มีการระบุวิธีแก้ไว้อย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง การตัดสินใจกับปัญหาลักษณะนี้จะไม่มีเครื่องมืออะไรมาช่วย มักเป็นปัญหาของผู้บริหารระดับสูง ต้องใช้สัญชาตญาณ ประสบการณ์ และความรู้ของ ผู้บริหารในการตัดสินใจ ตัวอย่างของการตัดสินใจแบบไม่เป็นโครงสร้าง หรือ เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่สามารถกำหนดกระบวนการตัดสินใจล่วงหน้า เช่น การคัดเลือกผู้บริหารเข้าทำงาน การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
(3). การตัดสินใจแบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structure Decision) เป็นการตัดสินใจแบผสมระหว่างแบบโครงสร้าง และแบบไม่เป็นโครงสร้าง คือบางส่วนสามารถตัดสินใจแบบโครงสร้างได้ แต่บางส่วนไม่สามารถทำได้ โดยปัญหาแบบกึ่งโครงสร้างนี้จะใช้วิธีแก้ปัญหาแบบมาตรฐาน และการพิจารณาโดยมนุษย์รวมเข้าไว้ด้วยกัน คือมีลักษณะเป็นกึ่ง โครงสร้าง แต่มีความซับซ้อนมากขึ้น ขั้นตอนจึงไม่ชัดเจนว่าจะมี(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553) หรือ เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับปัญหาที่สามารถระบุกระบวนการ หรือวิธีการตัดสินใจได้ล่วงหน้าในบางส่วน แต่ไม่มากพอที่จะนำไปสู่การตัดสินใจตามที่แนะนำได้อย่างแน่นอน ต้องใช้ประสบการณ์ของผู้ตัดสินใจ เช่น โมเดลทางคณิตศาสตร์ ทางสถิติ ทางการเงิน
3.ประเภทการตัดสินใจจำแนกตามระบบในองค์กร
(1)การตัดสินใจในระบบกลยุทธ์(Strategic Decision)เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับสูงโดยเป็นการตัดสินใจในระดับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในองค์กรในระยะยาว (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
(2)การตัดสินใจเพื่อควบคุมการบริหาร(Management Control Decision) หรืออาจจะเรียกว่า “การตัดสินใจระดับเทคนิคพิธี(Tactical Decision)เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับกลาง โดยเป็นการตัดสินใจวางแผนการทำงานในอนาคตขององค์กร จึงมีผลกระทาบต่อการดำเนินงานขององค์กรในอนาคตตามช่วงเวลาที่กำหนดและจัดเป็นการตัดสินใจระดับกลยุทธ์ในระยะเริ่มต้น(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
(3)การตัดสินใจระดับปฏิบัติการ(Operational Decision) เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารระดับล่าง โดยเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบกับบางส่วนขององค์กรเท่านั้นแลมีผลกระทบต่ออนาคตขององค์กรค่อนข้างน้อย (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
DSS เป็นซอฟแวร์ที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการสร้างตัวแบบที่ซับซ้อน ภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกัน นอกจากนั้น DSS ยังเป็นการประสานการทำงานระหว่างบุคลากรกับเทคโนโลยีทางด้านซอฟต์แวร์ โดยเป็นการกระทำโต้ตอบกัน เพื่อแก้ปัญหาแบบไม่มีโครงสร้าง และอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ใช้ตั้งแต่เริ่มต้นถึงสิ้นสุดขั้นตอนหรืออาจกล่าวได้ว่า DSS เป็นระบบที่โต้ตอบกันโดยใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อหาคำตอบที่ง่าย สะดวก รวดเร็วจากปัญหาที่ไม่มีโครงสร้างที่แน่นอน ดังนั้นระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ จึงประกอบด้วยชุดเครื่องมือ ข้อมูล ตัวแบบ (Model) และทรัพยากรอื่นๆ ที่ผู้ใช้หรือนักวิเคราะห์นำมาใช้ในการประเมินผลและแก้ไขปัญหา ดังนั้นหลักการของ DSS จึงเป็นการให้เครื่องมือที่จำเป็นแก่ผู้บริหาร ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีรูปแบบที่ซับซ้อน แต่มีวิธีการปฏิบัติที่ยืดหยุ่น DSS จึงถูกออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่เพียงแต่การตอบสนองในเรื่องความต้องการของข้อมูลเท่านั้น(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System) ในการพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่มีความซับซ้อน นักพัฒนาต้องทำการศึกษาสถาปัตยกรรมพื้นฐานของระบบสนับสนุนการตัดสินใจให้เข้าใจดีก่อน จึงทำการพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจซึ่งจะช่วยให้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาแล้วนั้น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานระบบได้อย่างแท้จริง และสอดคล้องกับการทำงานของระบบงานต่าง ๆ ภายในองค์กร
2.องค์ประกอบ
องค์ประกอบของระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการจัดการ เป็นระบบการเชื่อมโยงกันระหว่างทรัพยากรสมองของมนุษย์ให้ทำงานร่วมกันกับ ความสามารถของคอมพิวเตอร์เพื่อต้องการปรับปรุงคุณภาพของการตัดสินใจให้ดีที่สุด กล่าวคือ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเป็นระบบหนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์คอยช่วยเหลือ แลการให้การสนับสนุนเพื่อให้บุคคลผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจสามารถจัดการแก้ไขปัญหากึ่งโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิ โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)นำมาใช้ดังนี้คือ
- การใช้ความคิดประกอบเหตุผล (Intelligence Phase) เป็นขั้นตอนที่รับรู้และตระหนักถึงปัญหาหรือโอกาสที่เกิดขึ้น ทำการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา นำข้อมูลมาวิเคราะห์และตรวจสอบเพื่อแยกแยะและกำหนดรายละเอียด ของปัญหาหรือโอกาสหรือ เป็นการค้นหาสาเหตุของปัญหาโดยศึกษาถึงต้นเหตุของปัญหา ประเมินผลที่เกิดขึ้นหากไม่ทำการแก้ไขปัญหา วิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อมของปัญหา เพื่อสร้างแบบจำลอง ที่ใช้อธิบายละสาเหตุของปัญหาโดยอาจจะใช้การจำแนกปัญหาออก เป็นส่วนย่อย และคิดวิธีแก้ไขปัญหา ซึ่งผลที่ได้รับจากขั้นตอนนี้เรียกว่า “การระบุปัญหา(Decision Statement)” นั่นเอง สิ่งที่สำคัญคือการต้องทำการจำแนกหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาก่อนทำการแก้ไข ไม่ควรแก้ที่ปลายเหตุ(ณิชชา อินใจ 2553)
- การออกแบบ (Design Phase) เป็นขั้นตอนของการพัฒนาและวิเคราะห์ทางเลือกในการปฏิบัติที่เป็นไปได้ รวมถึงการตรวจสอบและประเมินทางเลือกในการแก้ปัญหา ซึ่งอาจใช้ตัวแบบเพื่อสร้างทางเลือกต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา (เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)หรือออกแบบหนทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดหรือ เป็นขั้นตอนการสร้างและวิเคราะห์ทางเลือกในการตัดสินใจ โดยทางเลือกที่สร้าง (ณิชชา อินใจ 2553) ขึ้นมาจะต้องมีความเป็นไปได้ในการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด และในขั้นตอนนี้ต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ของการตัดสินใจทั้งนี้สามารถพัฒนาทางเลือก ในการตัดสินใจโดยใช้การสร้างแบบจำลอง(Model) เช่นการใช้แผนภาพการตัดสินใจแบบต้นไม้ (Decision Tree) หรือตารางการตัดสินใจ (Decision Table)ก็ได้ (ณิชชา อินใจ 2553)
- การคัดเลือก (Choice Phase) ผู้ตัดสินใจจะเลือกแนวทางเลือกที่เมาะสมกับปัญหาและสถานการณ์มากที่สุด โดยอาจใช้เครื่องมือมาช่วยวิเคราะห์ คำนวณค่าใช้จ่ายและผลตอบแทนของแต่ละแนวทางเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าได้เลือกแนวทางที่ดีที่สุด หรือเป็นขั้นตอนการค้นและการประเมินทางเลือกต่างๆ ที่ได้จากการออกแบบ และการคัดเลือกให้เหลือทางเลือกทางเลือกเดียว โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการขั้นตอนนี้ คือทางเลือกเพื่อการนไปใช้จริงในการแก้ปัญหา (ณิชชา อินใจ 2553)
- การนำไปใช้ (Implementation) เป็นขั้นตอนที่นำผลการตัดสินใจไปปฏิบัติและคิดตามผลของการปฏิบัติเพื่อตรวจสอบว่าการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ หรือมีข้อขัดข้องประการใดจะต้องแก้ไข้ หรือปรับปรุงให้สอดคล้องและเหมาะสม กับสถานการณ์อย่างไรองค์ประกอบของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ มี 4 ส่วน หรือ เป็นขั้นตอนการนำทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ได้จากขั้นตอนที่ 3 ไปลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาจริง ซึ่งอาจจะประสบความล้มเหลวก็ได้ หากนำไปใช้แล้วล้มเหลว ก็อาจย้อนกลับไปสู่ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งเพื่อทบทวนการใหม่ได้เสมอ (ณิชชา อินใจ 2553)
5.การติดตามติดตามผล (Monitoring Phase)การติดตามผลเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการตัดสินใจและแก้ไขปัญหา หากผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นที่น่าพอใจจะต้องพิจารณาถึงสาเหตุว่าเกิดขึ้นจากขั้นตอนใด หือขาดสารสนเทศส่วนใดไปบ้าง เพื่อนำไปปรับปรุงการตัดสินใจแก้ไขปัญหาใหม่อีกครั้งหนึ่ง (ณิชชา อินใจ 2553)
ส่วนการจัดการข้อมูล (Data Management)
ฐานข้อมูล (Database) คือ การนำข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กันมาจัดเก็บไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คนในองค์กรสามารถใช้งานฐานข้อมูลร่วมกันได้ หรือเป็นระบบที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลให้กับระบบสอบถามข้อมูล โยอาศัยพื้นฐานของภาษา SQL ในระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์(พัชยา บัวบาน 2555)
ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System : DBMS) คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้ฐานข้อมูล ในการสร้าง ปรับปรุง และเรียกใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลและผู้ใช้ เพื่อการทำหน้าที่ในด้านต่าง ๆ
สารบัญข้อมูล (Data Directory) คือส่วนที่ใช้สำหรับเก็บรายชื่อ และคำจำกัดความของข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูล เพื่อใช้ตอบคำถามต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการ
ส่วนสอบถามข้อมูล (Query Facility) คือส่วนที่ช่วยในการสอบถามและค้นหาข้อมูลตามเงื่อนไขที่ต้องการ โดยส่วนสอบถามข้อมูลจะรับคำร้องขอเหล่านั้นต้องการผลลัพธ์อะไร จากนั้นทำการค้นหาข้อมูล และส่งผลลัพธ์กลับไปยังส่วนที่ร้องขอข้อมูลหรือเป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ง่ายที่สุด โดยช่วยสืบค้นข้อมูลเพื่อใช้ในการตัดสินใจ(พัชยา บัวบาน 2555)
ส่วนกลั่นกรองข้อมูล (Extraction) หรืออาจเรียกว่า “ส่วนสกัดข้อมูล” คือ ส่วนที่ทำหน้าที่ในการคัดเลือกข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร เพื่อนำจัดเก็บลงในฐานขอมูลระบบสนับสนุนการตัดสินใจ โดยจะทำหน้าที่นำข้อมูลจากแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ มาทำการสรุปข้อมูลและคัดเลือกข้อมูลตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ แล้วจึงนำข้อมูลที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่ฐานข้อมูลระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
3.การประยุกต์ใช้
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้คือ ระบบสามารถจัดการกลุ่มข้อมูลละสามารถให้คำแนะนำทางด้านแนวทางการพัฒนาปัจจัยด้านกาจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทาน ขององค์กรผู้เข้ามาในระบบใช้ระบบได้โดยองค์ความรู้ได้มาจากการทำเหมืองข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัยชิ้นนี้ได้นำเอานิวรอลเน็ตเวิร์กแบบ SOFMs และวิธีการจัดกลุ่มแบบ K-Mean มาจัดกลุ่มข้อมูลเพื่อหาวิธีการที่สามารถ Converge เข้าใกล้จุดของค่ากลาง ที่มีพลังงานต่ำที่สุด (Minimize Energy) และพิจารณาความสมมาตรของจำนวนสมาชิก และความผิดพลาดในการจัดกลุ่มเพื่อทำการเปรียบเทียบผลการทดลอง โดยเหตุผลที่ผู้วิจัยได้เลือกวิธีการทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากผู้ทำการทดลองต้องการที่จะศึกษาว่าการจัดกลุ่มที่พยายามคำนวณ หาค่าจุดตรงกลางของกลุ่มข้อมูลของวิธีการแบบ K-Mean กับการจัดกลุ่มที่มีการเคลื่อนค่ากลางทีละน้อยตามค่า Learning Rateผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่าวิธีการแบบ SOFMs สามารถจัดกลุ่มข้อมูลได้ดีกว่ากระบวนการแบบ K-Mean(เทพฤทธิ์ สินธำรงรักษ์ 2553)
ความสามารถของระบบการสนับสนุนการตัดสินใจ และการดำเนินการข้อมูล โดยคุณสมบัติ หลักแล้วคือ การจัดการข้อมูลให้กับระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เพื่อให้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ และมีประสิทธิภาพต่อการสนับสนุนการตัดสินใจของมนุษย์ได้ ความสามารถของส่วนการจัดการข้อมูลโดยสรุปมีดังนี้สามารถเรียกใช้ ข้อมูลในฐานข้อมูล ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจได้ สามารถปรับปรุงระเบียนข้อมูล และแฟ้มข้อมูลในฐานข้อมูลระบบสนับสนุนการตัดสินใจได้ สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข้อมูลต่างกันได้ สามารถเรียกดูข้อมูลจากฐานข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม เพื่อนำมาสร้างรายงานได้มีระบบรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลในฐานข้อมูล
ข้อค้นพบองค์การสามารถนำข้อมูล ทางด้านการสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ มาวิเคราะห์หรือสรุปว่า DSS จะแตกต่างจากระบบสารสนเทศ สำหรับการปฏิบัติการที่แลกเปลี่ยนเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลคือ DSS จะจัดการกับข้อมูลให้เป็นสารสนเทศที่เหมาะสมกับการตัดสินใจของผู้ใช้โดย DSS จะใช้ข้อมูลที่ประมวลผลจากระบบการปฏิบัติการมาจัดระเบียบแบบแผน และวิเคราะห์ตามคำสั่งและความสนใจของปัญหา นอกจากนี้ DSS ยังช่วยเร่งพัฒนาการและความเข้าใจในศักยภาพในการทำงาน ของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครอบคลุม มากกว่าการปฏิบัติงานประจำวัน
ส่วนการจัดการแบบจำลอง (Model Management) เป็นส่วนที่ช่วยควบคุมการทำงานของแบบจำลอง และช่วยคัดเลือกแบบจำลองที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจแก้ไขปัญหาลักษณะต่าง ๆ ในแบบจำลองทางด้านการเงิน ทางสถิติ วิทยาการจัดการแบบจำลองเชิงปริมาณ เป็นต้น โดยแบบจำลองที่นำมาคัดเลือกนี้ได้มากจากส่วนที่ใช้เก็บแบบจำลองไว้โดยเฉพาะ เรียกว่า “ฐานแบบจำลอง” หรือได้มากจากการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างแบบจำลองเฉพาะกิจขึ้นมาใช้งาน และความสามารถในการจัดการ วิเคราะห์ ค้นหา คัดเลือกแบบจำลองให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้ขณะนั้นคือ “ระบบจัดการฐานแบบจำลอง”(พัชยา บัวบาน 2555)
จาการวิเคราะห์ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ ระบบมีความสามารถในการสนับสนุนการแก้ปัญหาที่สลับซับซ้อน มีสนับสนุนการตัดสินใจและการจัดการเกี่ยวกับปัญหาที่มีโครงสร้างไม่แน่นอนหรือกึ่งและไม่มีโครงสร้าง และระบบสนับสนุนการตัดสินใจยังเป็นระบบที่มีการจัดการเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างแบบจำลองที่สลับซับซ้อน และมีการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับตัวระบบได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้
ระบบการสนับสนุนตัดสินใจและการดำเนินการสามารถแสดงผลลัพธ์ โต้ตอบต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนได้อย่างรวดเร็ว โดยผลลัพธ์นั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์หรือตามเงื่อนไขในการสนับสนุนและตัดสินใจ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจมีความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งของสถานการณ์ที่มีความซ้ำซ้อน ก็สามารถที่จะประเมินสถานการณ์นั้นได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยผู้ใช้สามารถใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจนี้ในการสร้างแบบจำลองหลายรูปแบบให้มีลักษณะที่สอดคล้อง กับสถานการณ์ฉะนั้นๆได้
ระบบการสนับสนุนและการตัดสินใจและการดำเนินการ ทำให้เกิดแนวความคิดและองค์ความรู้ใหม่ ผู้ใช้ระบบสนับสนุนการสนับสนุนการตัดสินใจ สามารถสอบแนวความคิดใหม่ๆ ของตนเองผ่านแบบจำลอง เช่นการวิเคราะห์ปัญหาแบบ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า” ซึ่งถ้าระบบให้การสนับสนุนให้ได้คำตอบหรือความคิดใหม่ๆ ช่วยให้สามารถฝึกฝนผู้จัดการและพนักงานที่ขาดประสบการณ์ในการตัดสินใจให้มีความรู้และประสบการการณ์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการ นี้นั้นเป็นอำนวยความสะดวกในการสื่อสาร ในการตัดสินใจแบบกลุ่มระบบสนับสนุนการตัดสินใจสามารถอำนวยความสะดวกในการเก็บรวบรวมข้อมูลทดลองสร้างแบบจำลองในการตัดสินใจ โดยใช้ผู้มีส่วนร่วมกับระบบสนับสนุนตัดสินใจในการกำหนดแบบจำลอง นอกจากนี้ยังช่วยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดตัวแปร ในการปฏิบัติงานให้มีระบบนำไปใช้เป็นข้อมูลในการทดลองสร้างแบบจำลองที่ใช้ในการทำงานกลุ่ม หรือมีการประชุมเกิดขึ้น ซึ่งอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติงานโดยผ่านระบบสนับสนุนการตัดสินใจแบบกลุ่ม
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการเป็นการใช้ในการปรับปรุง และเพิ่มขายหรือผลผลิตขององค์กร ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการจัดการมีความสามารถในการเพิ่มการควบคุมการจัดการและปรับปรุงผลผลิตสินค้าและบริการขององค์กร เนื่องจากผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการจัดการ ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและต้นทุนในการดำเนินงานขององค์การหรือบริษัท การใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับงานที่ต้องดำเนินการเป็นประจำนั้น จะส่งผลให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างเห็นได้ชัด หรือลดต้นทุนที่อาจเกิดจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ในระยะสั้นหรือระยะยาว
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินการเป็นแบบที่มีวัตถุประสงค์ ในการตัดสินใจที่เป็นผลมาจากระบบสนับสนุนการตัดสินใจ นั้นเกิดจากการกำหนดตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่แน่นอน ทำให้มีความแน่นอนและวัตถุประสงค์ที่เด่นชัดกว่าการตัดสินใจที่เป็นผลมาจากการใช้เพียงสัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์เท่านั้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการจัดการ ทำให้ผู้บริหารใช้เวลาในกระบวนการตัดสินใจน้อยลงเพราะระบบสนับสนุนการตัดสินใจและการจัดการ จะเป็นเครื่องมือกลั่นกรองการตัดสินใจที่มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัว ทำให้ผู้บริหารสามารถใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์วางแผน และการนำไปปฏิบัติจริงขององค์กร ปรับปรุงความสามารถของนักวิเคราะห์ในการสรางผลงานให้ได้มากขึ้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น